สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้

สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้

เรื่องโดย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย | ภาพโดย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
วันที่ 4 ธันวาคม 2560 15:01 น.

วันที่ 4 ธ.ค. พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้นำเฮลิคอปเตอร์หน่วยบินอโณทัย ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี บินสำรวจการเคลื่อนของมวลน้ำเหนือจากพื้นที่ จ.ยะลาที่ไหลมายังเขื่อนชลประทาน จ.ปัตตานี และติดตามดูสภาพการระบายน้ำในแม่น้ำปัตตานีสู่ปากอ่าวปัตตานีฝั่งทะเลอ่าวไทยโดยการบินตรวจสอบครั้งนี้พบว่ามวลน้ำเหนือจากพื้นที่ จ.ยะลา ยังมีอีกจำนวนมากที่ไหลเข้าสู่เขื่อนชลประทานปัตตานี ซึ่งเป็นน้ำสะสมที่ไหลจากเขาและจำนวนน้ำสะสมที่เกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมา และถึงแม้ทางเขื่อนบางลาง จ.ยะลา จะปิดบานประตูหยุดการระบายน้ำเพื่อช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วมจนถึงวันที่ 8 ธ.ค. แต่กลับพบว่ายังมีมวลน้ำเหนือจากจังกวัดยะลา ไหลหลากทั่วบริเวณที่ราบลุ่ม จึงทำให้ปริมาณของน้ำยังคงมีจำนวนมากและไหลมาสมทบที่เขื่อนชลประทานปัตตานี แต่ขณะนี้ทางเขื่อนได้มีการปิดประตูน้ำไว้ชั่วคราว เพื่อชะลอการระบายน้ำลงท้ายเขื่อน เพื่อให้น้ำที่ท่วมได้ไหลลงสู่ทะเล และหากน้ำเหนือยังคงไหลลงมาอีก ทางเขื่อนก็จะระบายน้ำอีกครั้ง แต่ถ้าหากเขื่อนยังรับน้ำได้เขื่อนก็จะกักเก็บน้ำไว้ในเขื่อน ถึงแม้ว่าน้ำจะล้นสปิลล์เวย์แต่เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบมากนัก ขณะที่แนวโน้มล่าสุดแม่น้ำปัตตานียังคงเอ่อล้นตะติ่ง หลากท่วมขยายเป็นวงกว้างอยู่อย่างต่อเนื่องในพื้นที่ อ.ยะรัง อ.แม่ลาน อ.หนองจิก และ อ.เมืองปัตตานี ซึ่งเป็นพื้นที่จำเป็นต้องรองรับน้ำท้ายเขื่อนในขณะที่ ต.ลิปะสะโง ต.คอลอตันหยง ต.ดอนรัก อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ยังคงมีน้ำท่วมสูง เนื่องจากยังรับจากที่ล้นตลิ่งในแม่น้ำปัตตานี ที่ไหลหลากมาจาก จ.ยะลา ทำให้ชาวบ้านทั้ง 3 ตำบลยังได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมสูง 1-2 เมตร โดยเฉพาะ ที่ บ้านแมบุ บ้านโคกยาร่วง ทั้งสองหมู่บ้านกว่า 120 ครัวเรือน ยังต้องเผชิญกับน้ำท่วมสูง 1-2 เมตรมาแล้ว 6 วัน จนชาวบ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอก สิ่งเดียวที่จะเดินทางออกจากหมู่บ้านได้คือต้องมีเรือส่วนตัว หรือร่วมเดินทางกับเพื่อนบ้านที่มีเรือพายเข้าออกหมู่บ้าน ซึ่งในการให้ความช่วยเหลือ ทางนายฉัตรชัย เจะปอนายกอบต.ลิปะสะโงได้มีการนำถุงยังชีพและสิ่งอำนวยความสะดวกเข้าให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องส่วนพื้นที่เขตเทศบาลเมืองปัตตานี ถนนสายต่าง ๆ ในย่านเศรษฐกิจภายในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี กลับเข้าสู่สภาวะปกติ ถนนทุกสายสามารถใช้ได้อย่างปกติ ร้านค้าต่าง ๆ ต่างเปิดร้านจำหน่ายเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์มีเพียงบางร้านที่ต้องจัดแจงสิ้นค้าภายในร้านเนื่องจากที่ผ่านมาต้องนำสินค้าขึ้นไปไว้ที่สูง แต่ยังมีอีก 2 ตำบลในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี ที่ยังคงมีน้ำท่วม ก็คือ ต.จะบังติกอ ต.สะบารัง เท่านั้นที่ยังคงมีน้ำท่วมอยู่เนื่องจากเป็นพื้นที่ติดแม่น้ำปัตตานี อีกทั้งการระบายน้ำยังคงเป็นไปได้ยาก เพราะทั้ง 2 ตำบลเป็นพื้นที่รับน้ำที่ไหลมาจาก จ.ยะลาจึงทำให้น้ำล้นตลิ่งจนถึงขณะนี้ล่วงเลยเข้าสู่วันที่ 4 แล้วที่บ้านเรือนประชาชนทั้ง 2 ตำบลยังถูกน้ำท่วมสูง 50-100 ซม.ในขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ติดแม่น้ำปัตตานี ใน 5 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.หนองจิก อ.ยะรัง อ.โคกโพธิ์ และ อ.แม่ลานระดับน้ำยังคงทรวงตัวอยู่ที่ 1-2 เมตร เนื่องจากการระบายน้ำเป็นไปได้ยาก ถึงแม้ว่าวันนี้ฝนหยุดตกแต่มวลน้ำอีกจำนวนมากที่ยังไหล่บ่ามาจาก จ.ยะลาลงสู่แม่น้ำปัตตานียังคงเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะ ม.1 บ.ปะกาฮะรัง ม.2 บ.จางา ม.2 บ.ยือโม๊ะ ม.2 บ.บลีดอ ต.ปะกาฮะรัง อ.เมือง จ.ปัตตานี สถานการณ์น้ำยังคงน่าเป็นห่วง ถึงแม้ว่าในห่วง 2 วันที่ผ่านมา ปริมาณน้ำฝนจะลดลง แต่เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ลุ่ม ติดแม่น้ำปัตตานี ทำให้การระบายน้ำเป็นไปอย่างยากลำบาก อีกทั้งพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่รองรับน้ำจากพื้นที่ต่าง ๆ เลยทำให้ระดับน้ำไม่ลดลง ถึงแม้ว่าจะผ่านมาแล้ว 8 วันแล้ว โดยพบว่า ถนนสายหลักทางเข้าหมู่บ้านยังคงน้ำท่วมสูกว่า 50 เซนติเมตร รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านเข้าออกได้ ส่วนภายในหมู่บ้านซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำปัตตานี ระดับน้ำสูงเกือบ 2 เมตร ชาวบ้านยังคงต้องใช้เรือเป็นพาหนะในการเดินทางไปทำงาน หรือส่งบุตรหลานไปโรงเรียน นอกจากนี้โรงเรียนหลายแห่งในพื้นที่ต้องปิดการเรียนการสอนอย่างไม่มีกำหนด